1.เลื่อนเวลาแข่งขัน 30 นาที 

เกมนี้เดิมทีทั้งสองทีมจะต้องลงเตะกันในเวลา 18.30 น. ตามเวลาบ้านเรา แต่กลับเกิดปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการตรวจบัตรเข้าชมแบบใหม่ ส่งผลให้แฟนบอลจำนวนมากที่เดินทางมาชมเกมเข้าสนามไม่ทัน จนเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจเลื่อนเวลาการแข่งขันออกไปอีก 30 นาที เป็นเวลา 19.00 น.

2.ฟอร์มการเล่นของนักเตะใหม่ 

มิเกล อาร์เตต้า เลือกส่ง 3 ผู้เล่นใหม่ของเขาลงสนามเป็นตัวจริงพร้อมกันทั้งหมด ประกอบไปด้วย ดีแคลน ไรซ์ กองกลางเจ้าของค่าตัวสถิติสโมสร ซึ่งในวันนี้ถือว่าเป็นแข้งใหม่ที่โชว์ฟอร์มเข้าตามากที่สุด โดยเขายืนประจำการคู่กับ โธมัส ปาร์เตย์ ทำหน้าที่มดงานในแดนกลางคอยวิ่งขึ้น-ลง สลับเชื่อมเกมกับตัดบอล ปั่นป่วนแนวรุกคู่แข่ง และมีโอกาสตะบันลูกยิงไกลสวยๆจนทำให้ทีมเกือบได้ประตูอยู่ 2-3 หน ในขณะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ เกมนี้ค่อนข้างเงียบ บทบาทเจ้าตัวมีน้อยเกินไปหากเทียบระยะเวลาที่เข้ามาปรับตัวกับทีมก่อนเป็นคนแรกในตลาดรอบนี้ ไม่แคล้วจะต้องรับบทแพะรับบาปให้แฟนๆบ่นอีกตามเคย

3.DNA อาร์เซนอล (อีกแล้วเหรอ?) 

เยอร์เรียน ทิมเบอร์ อีกหนึ่งนักเตะใหม่ที่กำลังถูกพูดถึงและได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลจำนวนมาก จากผลงานการเล่นที่ดูปรับตัวเข้ากับระบบทีมได้อย่างรวดเร็วและลงตัว แต่ในเกมนี้เขากลับเป็นคนที่โชคร้ายจากอาการบาดเจ็บในช่วงครึ่งเวลาแรก และกลับมาฝืนเล่นต่อไม่ไหว ส่งผลให้ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากเกมครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นเพียงไม่กี่นาที เฮ้อออ! พูดแล้วก็เซ็งนะ

4.ความมั่นใจของ บูกาโย่ ซาก้า และลูกยิงสุดสวยของเขา 

ในเกมนี้ขอแสดงความชื่นชม ซาก้า กับฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาไม่ใช่เฉพาะเกมนี้ แต่มันคือตลอดทุกเกมของเขา ผมยังยืนยันว่านี่คือหนึ่งในแนวรุกปืนใหญ่ที่หวังผลได้มากที่สุด ด้วยความเร็ว ความคล่องตัว บทบาทการมีส่วนร่วมกับเกม เจ้าหนูคนนี้พัฒนาขึ้นมากจนไม่แปลกที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าวว่านี่คือปีกขวาระดับ TOP 3 ของโลกในยุคปัจจุบัน ซึ่งลูกยิงในวันนี้ถือเป็นประตูที่โคตรยอดเยี่ยม การเลี้ยงบอลตัดเข้าข้างใน ปั่นด้วยเท้าซ้ายโค้งๆเสียบเข้ามุมประตูชนิดที่ผู้รักษาประตูบินยังไงก็ไปไม่ถึง

5.อาร์เตต้า กับระบบ Inverted Fullback 

ลูกทีมของกุนซือชาวสแปนิชต่างได้ทดลองเล่นในระบบนี้มาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง โดยในเกมนี้พวกเขายังคงใช้รูปแบบการเล่นเดิม ตามรายชื่อคือยืนเป็นแบ็คโฟร์ แต่พอลงสนามจริงพวกเขาจะยืนหลังสามโดยมี เบนจามิน ไวท์ ยืนกราบขวา เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ยืนฝั่งซ้าย วิลเลี่ยม ซาลิบา ยืนปราการหลังตัวกลาง และดัน โธมัส ปาร์เตย์ ขึ้นมาเป็นกองกลางสลับกับช่วยแบ็คทั้งสองฝั่ง โดยให้อิสระ ดีแคลน ไรซ์ ในการเติมเกมรุกมากขึ้น ซึ่งแท็คติกนี้มันช่วยส่งเสริมให้พวกเขาครองเกมในเเดนกลางตามสไตล์ที่พวกเขาถนัดชนิดที่เรียกว่า "ฟอเรสต์ หาบอลไม่เจอ"

แม้ว่าจะเป็นเพียงเกมแรกเท่านั้นสำหรับฤดูกาลใหม่ แต่ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือนักเตะทุกคนดูมีความเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีมและพยายามเรียนรู้ทำความเข้าใจกับกระบวนการที่ผู้จัดการทีมถ่ายทอดมาตลอด เพียงสิ่งนี้มันส่งผลให้แฟนบอลทุกคนสัมผัสได้ และพร้อมจะอยู่เคียงข้างสโมสรไม่ว่าสุดท้ายทีมนี้จะจบในอันดับที่เท่าไหร่ของตารางคะแนน

เขียนโดย The Lite Team.